จากความท้าทายเรื่องภาวะโลกร้อนที่นานาอารยประเทศกำลังเผชิญอยู่ เป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบต่อการแสดงบทบาทในการร่วมรณรงค์เรื่องการบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนในครั้งนี้ได้ ทางกระทรวงพลังงานผลักดันนโยบายด้านพลังงานทดแทนเป็นวาระแห่งชาติ โดยสนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนโดยเฉพาะการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานจากชีวมวล และก๊าซชีวภาพ เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานควบคู่กับการลดมลพิษ และเพื่อประโยชน์ของเกษตรกร โดยสนับสนุนให้มีการผลิตและใช้พลังงานหมุนเวียนในระดับชุมชนหมู่บ้าน ภายใต้มาตรการสร้างแรงจูงใจที่เหมาะสมและมีความสอดคล้องกับสถานการณ์พลังงานอย่างเป็นปัจจุบันมากขึ้น โดยได้ปรับปรุงกฎระเบียบการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย และได้ขยายระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Very Small Power Producer: VSPP) ที่มีขนาดมากกว่า 1 MW แต่ไม่เกิน 10 MW ด้วยมาตรการด้านราคาที่กำหนด “ส่วนเพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้า (Adder)” ตามประเภทเชื้อเพลิง สถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้า และเทคโนโลยีการผลิต
เนื่องด้วยสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น กลุ่มบริษัทท่าฉางอุตสาหกรรมจึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการกู้วิกฤตการณ์ด้านพลังงานชาติและสิ่งแวดล้อม กรอปกับศักยภาพและความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ ด้านต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากชีวมวลประเภททะลายปาล์มเปล่า เส้นใยปาล์ม และกะลาปาล์ม ซึ่งเป็นผลผลิตพลอยได้ (By Product) ของโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบขนาด 150 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมงที่กำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงต้นทุนค่าขนส่งวัตถุดิบที่อยู่ในระดับที่ต่ำมากเพราะโรงไฟฟ้าและโรงสกัด ฯ ตั้งอยู่บนบริเวณพื้นที่เดียวกัน โดยโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 9.9 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง